top of page

โปรเจคของเรา

Info Graphic-04.jpg
LTE_Design thinking_06_Abodaya-01.jpg

แนวคิดและกระบวนการคัดเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อพัฒนา

กระบวนการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วมโครงการเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องอาศัยการวิเคราะห์อย่างเป็นระบบและความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพสูงสุดสำหรับการพัฒนาต่อยอด ทั้งในด้านคุณภาพ ความสวยงาม และความสามารถในการสร้างรายได้ โดยนอกจากการใช้กระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) เป็นเครื่องมือหลักในการพัฒนาผลิตภัณฑ์แล้ว ทางโครงการยังได้นำเครื่องมือเสริมมาประยุกต์ใช้ร่วมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาเชิงสร้างสรรค์อย่างรอบด้าน กระบวนการนี้ประกอบด้วยขั้นตอนสำคัญดังต่อไปนี้

การจัดทำบัญชีรายการผลิตภัณฑ์ 
(Product Index)

โครงการเริ่มต้นด้วยการสำรวจและรวบรวมผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ภายในโรงเรียนและชุมชน โดยคำนึงถึงทรัพยากรที่มีอยู่แล้ว เช่น วัตถุดิบ ทักษะของนักเรียนและครู ตลอดจนความต้องการของตลาด รายการผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการคัดเลือกเบื้องต้นมีทั้งผ้าปักชนเผ่า เมล็ดกาแฟ และร้านกาแฟ ซึ่งแต่ละผลิตภัณฑ์มีจุดแข็งและจุดอ่อนที่แตกต่างกัน แต่จำเป็นต้องผ่านการประเมินเพื่อให้ได้ตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการพัฒนา

การประเมินผลิตภัณฑ์ด้วยเกณฑ์ “ง่าย งาม เงิน”

ร้านกาแฟ “อโบดาญ่า” (19/30 คะแนน)
ง่าย (6/10):
ขั้นตอนการดำเนินงานไม่ซับซ้อน นักเรียนสามารถเรียนรู้ทักษะการชงกาแฟ การบริหารจัดการร้าน และการให้บริการลูกค้าได้
งาม (6/10): การตกแต่งร้านต้องมีการออกแบบให้ดึงดูดลูกค้าในพื้นที่
เงิน (7/10): มีรายได้สม่ำเสมอ แต่ต้องเผชิญการแข่งขันในตลาดร้านกาแฟที่สูง

ผ้าปักชนเผ่า (21/30 คะแนน)
ง่าย (6/10):
การสอนเทคนิคปักผ้าค่อนข้างซับซ้อนและต้องการการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
งาม (8/10): ผ้าปักชนเผ่ามีเอกลักษณ์และความสวยงาม แต่ต้องการการออกแบบเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มมูลค่า
เงิน (7/10): มีตลาดรองรับแต่มีการแข่งขันสูง

เมล็ดกาแฟ (23/30 คะแนน)
ง่าย (7/10):
กระบวนการปลูกไม่ซับซ้อนมาก แต่ต้องใช้เวลานาน
งาม (9/10): เมล็ดกาแฟจากแม่ฮ่องสอนมีคุณภาพสูง รสชาติดี
เงิน (7/10): มีศักยภาพในตลาด แต่ขาดกลยุทธ์ทางการตลาด

การสรุปผลการคัดเลือก

จากการประเมินพบว่าร้านกาแฟอโบดาญ่าได้รับเลือกให้พัฒนา แม้ว่าคะแนนรวมจะต่ำกว่าผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น เมล็ดกาแฟและผ้าปักชนเผ่า แต่เหตุผลที่เลือกคือร้านกาแฟเป็นธุรกิจที่มีโครงสร้างพื้นฐานรองรับอยู่แล้ว โรงเรียนมีโรงคั่วกาแฟของตนเอง และปลูกกาแฟในพื้นที่ ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ นอกจากนี้ ร้านกาแฟสามารถเป็นศูนย์กลางในการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนและดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาสัมผัสกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของโรงเรียน เช่น เสื้อผ้าชนพื้นเมือง หรือเมล็ดกาแฟคั่วสด อีกทั้ง ร้านกาแฟยังเป็นแพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่สำคัญสำหรับนักเรียน เนื่องจากช่วยให้พวกเขาได้ฝึกทักษะด้านการบริหารธุรกิจ การตลาด และการให้บริการ ซึ่งเป็นทักษะที่สามารถนำไปต่อยอดได้ในอนาคต และหากร้านกาแฟประสบความสำเร็จ จะช่วยเสริมสร้างอัตลักษณ์ของโรงเรียนและสร้างโอกาสในการพัฒนาธุรกิจในระยะยาว

การสร้างฉันทามติร่วมกัน

ในการตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ ได้มีการประชุมและหารือร่วมกันระหว่างครู นักเรียน และผู้เกี่ยวข้องในโครงการ ทุกฝ่ายเห็นพ้องว่าร้านกาแฟอโบดาญ่าเป็นตัวเลือกที่สามารถพัฒนาให้เป็นเอกลักษณ์ของโรงเรียนได้ และจะช่วยเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจของโรงเรียนให้ยั่งยืนต่อไปในอนาคต การพัฒนาแบรนด์ “อโบดาญ่า” จะช่วยสร้างความแตกต่างจากร้านกาแฟทั่วไป ด้วยจุดเด่นของเมล็ดกาแฟที่ปลูกในพื้นที่สูง ซึ่งให้รสชาติเข้มข้นแต่ไม่ฝาด ทำให้เป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์และมีโอกาสขยายตลาดได้มากขึ้น

bottom of page